การส่งตรวจทางด้านนิติเวชศาสตร์และพิษวิทยา
(Forensic Medicine & Toxicology )
1.
การส่งตรวจสารระเหย เช่น Alcohol ,Cyanide ในGastric Lavage จำนวนที่เก็บอย่างน้อย 50 มล.
ปิดฝาภาชนะให้สนิท พันทับด้วยพาราฟิล์ม หากไม่สามารถส่งตรวจได้ทันที ให้เก็บในช่องแช่แข็ง
และแช่เย็นระหว่างนำส่ง
2.
การตรวจปริมาณ Alcohol (ethanol) ในเลือด
-
เจาะเลือดใส่ใน NaF tube (ฝาสีเทา) แล้วปิดทับด้วยพาราฟิล์ม
-
ห้ามใช้ 70% alcohol ฆ่าเชื้อในการเจาะเลือด ให้ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อชนิดอื่นแทน เช่น Betadine
3.
การตรวจสารเสพติดกลุ่มมอร์ฟีนและอนุพันธ์กลุ่มเมทแอมเฟตามีน ให้เก็บปัสสาวะชนิด Random-urine ปริมาณอย่างน้อย 30 มล.
4.
การตรวจหาระดับยาทุกชนิด ใช้ Clotted
Blood Tube 4 ml. ยกเว้นยา cyclosporine ให้ใช้เลือด 2 ml. ใส่ใน EDTA tube
5.
การตรวจตะกั่วในเลือด (Lead Level) เจาะเลือด 2 มล. ใส่ใน Lithium heparine
tube
6.
การตรวจยาฆ่าแมลง ตัวอย่างที่ส่งตรวจ ได้แก่
Gastric lavage หรือปัสสาวะ ปริมาณไม่น้อยกว่า 50 มล.
และตัวอย่างสารพิษ (ถ้ามี)
กรณีสงสัยกลุ่ม organophosphate
ให้เจาะ Clotted
Blood ประมาณ 3 มล.
สำหรับตรวจหาระดับ enzyme
cholinesterase
1.
การตรวจวัตถุพยานคดีล่วงละเมิดทางเพศ ตัวอย่างที่ต้องเก็บคือ
3.1
Vaginal
swab
-
ใช้ sterile
swab ป้ายของเหลวในช่องคลอด บริเวณแอ่งที่ลึกที่สุดของช่องคลอดใต้
ปากมดลูก (Posterior fornix ) ใส่ขวด/ หลอดหรือถุงที่สะอาด นำส่งโดยเร็วที่สุดเพื่อตรวจหาตัวอสุจิ กรณีที่ไม่สามารถส่งได้ทันทีควรนำ swab มาตั้งทิ้งไว้ให้แห้งสนิท แล้วนำกลับเข้าบรรจุในขวด / หลอดหรือถุง
เพื่อส่งตรวจหาเอนไซม์แอซิดฟอสฟาเตส
3.2
การส่งคราบที่ต้องสงสัย หากคราบนั้นติดอยู่ที่ตัวผู้เสียหายให้ใช้ swab ชุบ
Normal Saline Solution (NSS
) ให้พอชื้นๆเช็ดบริเวณคราบแล้วปฏิบัติเช่นเดียวกับข้อ
3.1
3.3 หากต้องส่งเสื้อผ้าที่มีคราบที่ต้องสงสัยมาตรวจ
อาจตัดเอาเฉพาะคราบที่ต้องสงสัยมาส่งหรือ ส่งมาทั้งชิ้นก็ได้
3.4
ให้นำส่งพร้อมใบนำส่งแเอซิดฟอสฟาเตส และหนังสือราชการในการนำส่งด้วย
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น